เรียนภาษาอังกฤษในกรุงเทพ
Education

5 พิกัด ฟุด-ฟิด-ฟอ-ไฟ เรียนภาษาอังกฤษในกรุงเทพ

July 2, 2019

หลังจากเคยแนะนำสถานที่เรียนภาษาอังกฤษในกรุงเทพฯ แบบฟรีๆ กันไปหลายต่อหลายแห่ง ทั้งที่ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ หรือศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ แต่ดูว่ายังไม่น่าจะเพียงพอ มาในครั้งนี้เราจึงอยากจะชี้เป้าเพิ่มเติม เพื่อให้การเสริมทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษของคุณทะมัดทะแมงแข็งแรงยิ่งขึ้น แน่นอนว่าแหล่งเรียนรู้เหล่านี้ ก็แทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ขอเพียงมีใจและแบ่งเวลาไปกับการตักตวงวิชาความรู้อย่างจริงจังก็เท่านั้น    

‘คริสตจักร’ เปิดกว้างทุกเพศวัย

โบสถ์ วิหาร หรือวัดของศาสนาคริสต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีความสวยสง่า โดดเด่นด้วยงานสถาปัตยกรรมและการตบแต่ง มีหลายแห่งได้กลายเป็นแลนด์มาร์คยอดนิยม ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยว ในเวลาเดียวกัน ก็มีคริสตจักรจำนวนไม่น้อย ที่เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้กับบุคคลทั่วไปแบบฟรีๆ โดยเฉพาะวันเสาร์หรืออาทิตย์ ครั้งละ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ นอกเหนือจากการเผยแผ่ศาสนา และไม่มีเงื่อนไขว่าผู้สนใจเพิ่มพูนทักษะด้านภาษาอังกฤษต้องเป็นคริสเตียน จะเปิดกว้างทุกเพศวัย ทุกศาสนา แบบไร้กำแพงกั้น    

เข้า ‘วัด’ ไหว้พระ ทำบุญ เรียนภาษาอังกฤษ

ไม่เฉพาะแค่คริสตจักรเท่านั้น แต่วัดวาอารามทางพุทธศาสนา ก็เป็นแหล่งเติมเต็มวิชาความรู้ด้านนี้หลายวัดอยู่เหมือนกัน อย่าง วัดไทร แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม วัดเก่าแก่หลายร้อยปี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา ที่จะเปิดสอนภาษาอังกฤษให้กับบุคคลที่ใฝ่ศึกษา ได้นำทักษะเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ โดยทางวัดยังคงยึดตามหลัก “บวร” บ้าน-วัด-โรงเรียน เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ พัฒนาคน จะเปิดสอนทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.00 – 15.00 น. ซึ่งอาจารย์ผู้สอนก็จะมีทั้งพระสงฆ์องค์เจ้าของทางวัด และบุคคลภายนอกผู้เชี่ยวชาญที่อาสามาเป็นอาจารย์พิเศษ    

 ‘มิวเซียมสยาม’ เสริมทักษะการเรียนรู้

พิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้

สถานที่แห่งนี้ถูกออกแบบมาให้เป็น พิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ (Discovery Museum) อย่างแท้จริง มุ่งสร้างประสบการณ์แปลกใหม่แบบสร้างสรรค์และเพลิดเพลิน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เพื่อให้รู้จักตนเอง เพื่อนบ้าน และรู้จักโลก นำเสนอเรื่องราวและนิทรรศการต่างๆ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ สื่อมัลติมีเดีย เช่น พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง (Virtual Exhibition) และห้องสมุดออนไลน์ (E-Library) ฯลฯ แม้แต่วัยทำงานก็ไม่มีข้อห้าม ต่อการเปิดโลกกว้างด้านภาษาอังกฤษ เพราะที่นี่เปรียบไปก็เหมือนกับเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผ่านการสัมผัสทั้งตาดู หูฟัง ปากพูด และมือจดบันทึกสารพันเรื่องราว   

‘โฮสเทล’ ย่านธุรกิจ-แหล่งท่องเที่ยว

หากต้องการจะเก่งภาษาอังกฤษแบบครบเครื่อง ก็จำเป็นต้องนำพาตัวเองไปอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ ทางเลือกหนึ่ง ก็คือ การไปฝึกงานตาม “โฮสเทล” ในย่านธุรกิจสีลม สุขุมวิท หรือแหล่งท่องเที่ยวย่านบางลำพู พระนคร รอบๆ เกาะรัตนโกสินทร์นั่นแหละ เพราะหลายแห่งยังต้องการบุคลากร ค่าจ้างอาจไม่มาก หรือจะไม่รับเลยก็ได้ ขอเพียงได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษสื่อสารกับชาวต่างชาติ แขกที่มาพักบ่อยๆ แค่นั้น ยิ่งใครที่ชอบแชท แชร์ บนสื่อโซเชียล ก็ขอทำหน้าที่แอดมินเพิ่มอีกงาน แจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น ฯลฯ ภาคอิงลิชให้กับโฮสเทลเหล่านั้นไปเลย    

ฝึกวิชากับกลุ่มธุรกิจ ‘สตาร์ทอัพ’

กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ หรือ “สตาร์ทอัพ” ก็เป็นอีกแหล่งฝึกฝนและเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษที่ไม่ควรมองข้าม เพราะโดยมากกลุ่มสตาร์ทอัพจะมีทีมงานราว 10 คน บางแพลตฟอร์มทำกันเพียง 2-3 คนก็มี ซึ่งยูนิคอร์นเหล่านี้ล้วนต้องการสตาฟแบบพาร์ทไทม์กันทั้งนั้น เพื่อมาช่วยทำงานในส่วนต่างๆ งานแปลภาษา เอกสารจากต่างประเทศ เขียนอีเมล์ติดต่องาน ฯลฯ โดยการสื่อสารจะเป็นภาคภาษาอังกฤษแทบทั้งหมด ที่สำคัญงานลักษณะนี้ถือเป็นงานยุคดิจิทัล ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกวันเวลา จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว    

การฟุด ฟิด ฟอ ไฟ เรียนภาษาอังกฤษในกรุงเทพ นั้น มีมากมายหลายหลากจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่ในศาสนสถาน ได้ไหว้พระ ศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้วิชาความรู้ติดตัวอีกต่างหาก

หรือจะเลือกปักหมุดที่ได้ทั้งงานและเงินก็ไม่มีใครว่า!